PrayforAmazonia - วิกฤตไฟป่าครั้งใหญ่เผาไหม้ปอดของโลก
ช่วงนี้หลายๆคนคงจะเห็นข่าวไฟป่าที่กำลังเผาไหม้ป่าอเมซอนซึ่งลุกลามกินพื้นที่เป็นวงกว้างแล้วกว่า16 วัน ป่าเอมะซอนนี้ถือได้ว่าเป็นปอดขนาดใหญ่ของโลกที่ผลิต อ๊อกซิเจนและดูดซับก๊าซคาร์บอนไดอ๊อกไซด์เป็นจำนวนมาก ในขณะที่ทั่วทั้งโลกตอนนี้กำลังให้ความสนใจด้วยการติด แฮชแท็ก #PrayforAmazonia บนโลกออนไลน์ ซึ่งตอนนี้ผืนป่าถูกไฟไหม้ไปกว่า 3,000 ตารางกิโลเมตร จากพื้นที่ทั้งหมด 5.5 ล้านตารางกิโลเมตร และมีสัตว์ป่าน้อยใหญ่ ถูกไฟคลอกตายเป็นจำนวนมาก ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ ถือเป็นเหตุการณ์ไฟป่ารุนแรงที่สุดในรอบ 7 ปี ของ ประเทศบราซิล และส่งผลให้กลุ่มควัญนั้นกระจายปกคลุ่มไปทั่วบราซิล
ป่าอเมซอน - ป่าดิบชื้นอเมซอน เป็นป่าใบกว้างชื้นที่ครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของแอ่งอเมซอนในทวีปอเมริกาใต้ แอ่งนี้กินพื้นที่ 7 ล้านตารางกิโลเมตรซึ่งป่าดิบชื้นอเมซอนกินพื้นที่ไป 5.5 ล้านตารางกิโลเมตร ภูมิภาคนี้รวมดินแดนที่เป็นของ 9 ประเทศ พื้นที่ป่าส่วนใหญ่ราวร้อยละ 60 อยู่ในประเทศบราซิล และเป็นป่าดิบชื้นเขตร้อนขนาดใหญ่ที่สุดและมีความหลากหลายทางชีวภาพมากที่สุดในโลก มีต้นไม้ประมาณ 390 พันล้านต้นและมีพันธุ์ไม้ประมาณ 16,000 ชนิด
สาเหตุของไฟป่า - ปัญหาไฟไหม้ป่าครั้งนี้เชื่อว่าเกิดจากการเผาป่าเพื่อทำไร่ของเกษตรกร รวมทั้งการเผาไล่ที่ชนเผ่าพื้นเมืองของนายทุนที่ลักลอบตัดไม้ อีกทั้งตอนกลางของบราซิล
และตอนใต้ของป่าแอมะซอนประสบภาวะแห้งแล้งมานาน บางพื้นที่ไม่มีฝนตกเลยมานานกว่า 3 เดือน ทำให้เกิดไฟไหม้ป่าได้ง่ายขึ้น สถาบันวิจัยอวกาศแห่งชาติของบราซิล เปิดเผยว่า
ดาวเทียมได้สำรวจการเกิดไฟป่าที่ป่าอเมซอน ในช่วงเดือนมกราคม - สิงหาคม 2562 พบว่ามีไฟป่าเกิดขึ้นมากกว่า 72,000 ครั้ง เป็นตัวเลขที่สูงที่สุด นับตั้งแต่ปี 2556 เป็นต้นมา แค่ในช่วงเวลาไม่กี่วัน ตั้งแต่วันที่ 15-21 สิงหาคม 2562 ก็เกิดไฟไหม้ป่ามาแล้วมากกว่า 9,500 ครั้ง
สุดท้าย สถาณการณ์ไฟป่าที่ลุกลามยาวนานกว่า 16 วันนี้ยังคงไม่รู้ว่าจะหยุดเมื่อไหร่ แต่ที่แน่ๆไฟป่าครั้งนี้ได้สร้างความเสียหายเป็นจำนวนมาก ต่อสิ่งมีชีวิตในป่า ระบบนิเวศ และสภาพอากาศอย่างที่ได้กล่าวมานับวันไฟป่าที่เกิดขึ้นจะทวีความรุนแรงมากขึ้น ทั้งจากการบุกรุกตัดใม้ การเผาป่าของชาวไร่ เพราะฉนั้นเราจึงควรตระหนักถึงภัยที่เกิดขึ้นรวมถึงตระหนักถึงโลกของเราเพราะต่อไปข้างหน้าอาจจะไม่มีป่าให้เราเห็นเหลือเพียงแต่ทะเลทรายแห้งแล้วก็ได้ พวกเราชาว ชิโมโน จึงอยากจะเป็นกำลังให้ภัยครั้งนี้ผ่านพ้นไป #shimonoprayamazonai