แชร์

10 การนวด ที่นิยมในปัจจุบัน

อัพเดทล่าสุด: 13 ม.ค. 2025
19 ผู้เข้าชม

มาทำความรู้จักกับการนวดทั้ง 10 รูปแบบที่นิยมในปัจจุบัน การนวดแต่ละรูปแบบจะมีวัตถุประสงค์แตกต่างกัน เช่น เน้นสร้างความผ่อนคลาย และเน้นแก้อาการปวดเมื่อยต่างๆ นวดจับเส้น เป็นการนวดเพื่อบำบัดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อเฉพาะจุด ไม่เน้นการผ่อนคลายแต่เน้นการบรรเทาอาการ

การนวดมีกี่ประเภท แต่ละประเภทแตกต่างกันอย่างไรบ้าง?

การนวด เป็นศาสตร์การดูแลร่างกายที่ได้รับความนิยมไปทั่วทุกมุมโลก ทั้งฝั่งเอเชียและประเทศตะวันตก การนวดแต่ละชนิดจะมีเทคนิคอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เพื่อสร้างความผ่อนคลายในรูปแบบที่แตกต่างกัน ในปัจจุบันได้มีการพัฒนาการนวดรูปแบบใหม่ๆ เพื่อให้สามารถมอบความผ่อนคลายหรือช่วยลดอาการปวดเมื่อยร่างกายต่างๆ ของแต่ละบุคคลได้มากขึ้น

การนวดยอดนิยมทั้ง 10 ประเภท ดังนี้:

 

1. นวดแผนไทย (Thai Massage)
การนวดแผนไทย ได้ชื่อว่าเป็นการนวดที่ แอคทีฟ มากที่สุด เพราะต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างเทอราปิสและผู้รับบริการตลอดการนวด เทอราปิสจะใช้ท่ายืดกล้ามเนื้อคล้ายโยคะ ที่จะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและสร้างความผ่อนคลายให้กับกล้ามเนื้อที่เมื่อยล้า อีกทั้งยังช่วยบรรเทาความเครียด ขจัดอารมณ์ด้านลม และปรับอารมณ์ให้สดชื่นขึ้น

 

2. นวดสวีดิช (Swedish massage)
การนวดสวีดิช เป็นศาสตร์การนวดของฝั่งตะวันตก ที่มีการใช้เทคนิคการนวดอย่างเป็นจังหวะ เพื่อสร้างความผ่อนคลายให้กับกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อทั่วร่างกาย การนวดชนิดนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความผ่อนคลายในระดับที่อ่อนโยนกว่าการนวดแผนไทย

การนวดสวีดิชจะช่วยคลายปมกล้ามเนื้อและช่วยฟื้นฟูกล้ามเนื้อจากอาการบาดเจ็บ พร้อมทั้งกระตุ้นระบบไหลเวียนโลหิต ลดอาการปวดศีรษะ ทำให้จิตใจสงบ

 

3. นวดน้ำมันอโรมา (Aromatherapy Massage)
การนวดน้ำมันอโรมา เป็นการนวดร่างกายโดยใช้น้ำมันหอมระเหยจากธรรมชาติที่มีกลิ่นหอม เพื่อสร้างบรรยากาศแห่งการผ่อนคลายให้กับร่างกายและจิตใจ เมื่อน้ำมันหอมระเหยซึมเข้าสู่ผิวหนังจะทำให้เลือดลมไหลเวียนได้ดีขึ้น ช่วยคลายความวิตกกังวล และช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวเรียบเนียนยิ่งขึ้น

 

การนวดน้ำมันอโรมา เป็นการนวดร่างกายโดยใช้น้ำมันหอมระเหย

 

น้ำมันหอมระเหยจากธรรมชาติที่ใช้ประกอบการนวดจะมีหลายชนิด เช่น น้ำมันเปปเปอร์มิ้นท์ น้ำมันมะพร้าว น้ำมันลาเวนเดอร์ และอื่นๆ โดยสารสกัดเหล่านี้จะมี

 

4. นวดสปอร์ต (Sports Massage)
สำหรับนักกีฬามืออาชีพที่ทำการฝึกซ้อมอย่างหนักและผู้ที่รักการออกกำลังกายเป็นชีวิตจิตใจ บริการนวดสปอร์ตเป็นวิธีที่จะช่วยเพิ่มศักยภาพในการฝึกซ้อม ช่วยฟื้นฟูร่างกายจากอาการบาดเจ็บ และช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับร่างกายได้เป็นอย่างดี

การนวดสปอร์ตสามารถทำได้หลายรูปแบบ โดยจะไม่ได้เน้นการสร้างความผ่อนคลาย แต่จะเป็นการรักษาความแข็งแรงและเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับกล้ามเนื้อ หากคุณต้องการดูแลร่างกายอย่างเต็มรูปแบบ คุณสามารถเลือกบริการนวดจับเส้น ที่เน้นการนวดตามเส้นพลังงาน หรือ เส้นประธานสิบ โดยการนวดชนิดนี้จะช่วยเพิ่มสมาธิให้กับนักกีฬา และช่วยฟื้นฟูกล้ามเนื้อ ทำให้รู้สึกสดชื่น กระเปรี้กระเปร่ามากขึ้น

 

5. นวดจับเส้น/รีดเส้น (Nerve Touch Massage)
การนวดจับเส้นหรือนวดรีดเส้นเหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการเจ็บปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง หรือเจ็บปวดเฉพาะจุด ตามส่วนของร่างกาย โดยเทอราปิสจะเน้นการกดนวดกล้ามเนื้อเพื่อกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ทำให้เลือดไปเลี้ยงกล้ามเนื้อบริเวณที่มีอาการปวดได้ดียิ่งขึ้น ทำให้อาการปวดบรรเทาลง พร้อมทั้งสร้างความยืดหยุ่นให้กับกล้ามเนื้อและช่วยรักษาปมกล้ามเนื้อในระยะยาว

 

6. นวดกดจุดสะท้อนฝ่าเท้า (Foot Reflexology Massage)
การนวดกดจุดสะท้อนฝ่าเท้า จากยุคจักรพรรดิหวงตี้ ราชวงศ์ฮั่น ราชวงศ์ถัง จากศาสตร์จีนสู่ญี่ปุ่นดัดแปลงใช้เข็มแทงฝ่าเท้า หลังจากนั้นการศาสตร์นี้ก็ได้ความนิยมกันอย่างแพร่หลาย จากหลักฐานอียิปต์ อเมริกา มาถึงประเทศไทย โดยนายวิลเลี่ยม เอช ฟริตเจอราลด์ แพทย์ชาวอเมริกัน เจ้าของศาสตร์การนวดจุดสะท้อน หรือรักษาโรคจากแนวสะท้อนตามโซนที่ฮิตกันมากในปัจจุบัน การนวดกดจุดสะท้อนที่เท้า โดยจุดสะท้อนที่เท้ามีทั้งหมด 62 จุด กดเพื่อกระตุ้นการทำงานของอวัยวะต่างๆ ภายในร่างกายให้ทำงานได้ปกติ และการปรับสมดุลภายในร่างกาย


การนวดกดจุดสะท้อนที่เท้า โดยจุดสะท้อนที่เท้ามีทั้งหมด 62 จุด กดเพื่อกระตุ้นการทำงานของอวัยวะต่างๆ

7. นวดประคบด้วยหินร้อน (Hot Stone Massage)
การนวดประคบด้วยหินร้อนจะใช้เทคนิคที่คล้ายกับการนวดสวีดิช แต่จะมีการใช้หินร้อนประกอบการนวดเพื่อให้คุณผ่อนคลายได้ดียิ่งขึ้น ความร้อนจากหินจะช่วยคลายกล้ามเนื้อที่ตึงตัวจากความเครียด และกระตุ้นการทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกาย รวมถึงระบบไหลเวียนโลหิตและระบบน้ำเหลือง นอกจากนี้ยังช่วยคลายความเครียด ทำให้รู้สึกเบาสบายตัว และช่วยขจัดอารมณ์ด้านลบได้

 

8. นวดแก้ออฟฟิศซินโดรม (Office Syndrome Massage)
การนั่งทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานกว่า 8 ชั่วโมงต่อวัน อาจทำให้กล้ามเนื้อเกิดอาการเกร็งสะสมต่อเนื่อง จนเกิดอาการปวดเรื้อรังที่รักษายาก การนวดแก้ออฟฟิศซินโดรมจะช่วยคลายความเมื่อยล้าและช่วยยืดกล้ามเนื้อบริเวณหลัง ไหล่ และคอ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

9. นวดกดจุดชิอัตสึ (Shiatsu Massage)
การนวดชิอัตสึ เป็นการนวดกดจุดตามเส้นพลังงานแบบญี่ปุ่น มีจุดประสงค์เพื่อคืนความสมดุลให้กับร่างกายและจิตใจด้วยการกระตุ้นการไหลเวียนของพลังชีวิต ซึ่งสามารถสร้างความผ่อนคลาย ช่วยบรรเทาความเครียดสะสม พร้อมทั้งทำให้อาการปวดศีรษะและอาการปวดไมเกรนดีขึ้น

 

10. นวดศีรษะ หลัง ไหล่ / นวดคอ บ่า ไหล่
การนวดศีรษะ หลัง ไหล่ จะช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อตั้งแต่ศีรษะ ขมับ บ่า หลังที่ทำให้เจ็บปวดและไม่สบายตัว ยืดเส้นเอ็น และกระตุ้นระบบไหลเวียนโลหิตให้ทำงานได้ดีขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการปวดเมื่อยเรื้อรังหรือผู้ที่ต้องการผ่อนคลายลำตัวช่วงบน

การนวดศีรษะ หลัง ไหล่ จะช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อตั้งแต่ศีรษะ ขมับ บ่า หลังที่ทำให้เจ็บปวดและไม่สบายตัว




บริการนวดศีรษะ หลัง ไหล่ มีประโยชน์ดังนี้:

คลายกล้ามเนื้อที่เกร็งตึงจากการทำงาน หรือการจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ
ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ทำให้เลือดไปเลี้ยงบริเวณศีรษะได้ดีขึ้น ทำให้รู้สึกเบาสบายร่างกาย
ช่วยทำให้นอนหลับง่ายขึ้น
ปรับอารมณ์ให้สดชื่น
 


บทความที่เกี่ยวข้อง
การนวดกดจุดสะท้อนที่เท้า
ศาสตร์การนวดกดจุดสะท้อนเท้าเป็นศาสตร์ที่ถือกำเนิดมาจากชาวอียิปต์ จีน และ อินเดีย ที่มีการพบพระพุทธบาทที่จาลึกภาพแสดงการนวดผ่าเท้า
13 ม.ค. 2025
วิธีการดูแล และ การซ่อมแซมรักษาตัวหนังเก้าอี้นวดไฟฟ้า
วิธีการรักษาเก้าอี้นวดเบื้องต้น? เก้าอี้นวดหนึ่งตัวเลือกที่ดีในการรักษาสุขภาพร่างกาย ยามที่ ร่างกายเมื่อล้าจากการทำงาน หรือ การออกกำลังกาย
13 ม.ค. 2025
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ